สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com

เรื่อง ขุดบ่อน้ำในทะเลทราย


เรื่อง ขุดบ่อน้ำในทะเลทราย (วัณณุปถชาดก)


วายะเมเถวะ ปุริโส ยาวะ อัตถัสสะ นิปปะทา


เป็นคนควรพยายามไปจนกว่าจะสำเร็จ


คือครั้งก่อนโน้น พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นลูกพ่อค้าตระกูลหนึ่ง ซึ่งการค้าขายสมัยนั้นจะต้องใช้เกวียนเป็นการขนส่งสินค้าออกนอกเมือง เมื่อพระโพธิสัตว์โตเป็นหนุ่มได้เป็นกำลังสำคัญในการช่วยบิดามารดาทำการค้าขาย คราวหนึ่งพระโพธิสัตว์ได้รับมอบหมายให้คุมกองเกวียนสินค้า ๕๐๐ เล่ม ไปค้าขายยังต่างเมือง เนื่องจากหนทางไปยากลำบากมาก เพราะต้องผ่านทะเลทรายที่มีหญ้าหาได้ยากมากและใช้เกวียนลากไปได้ไม่สะดวกเลย และมีระยะทางถึง ๖๐ โยชน์ (๑ โยชน์ เท่ากับ ๑๖ กิโลเมตร) พระโพธิสัตว์จึงได้วางแผนก่อนออกเดินทางเอาไว้ว่า จะให้บรรทุกน้ำบรรทุกฟืนไปให้เพียงพอและของที่จำเป็นเท่านั้นติดตัวไป รวมทั้งให้ออกเดินทางเฉพาะกลางคืน เช้าขึ้นก็ให้หยุดพักเพราะกลางวันร้อนนัก ไปไม่ได้

พอวางแผนเสร็จทุกอย่างก็เดินทาง เมื่อเดินทางผ่านไปวันแล้ววันเล่าก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ แต่มีอยู่คืนหนึ่งคนนำทางที่อยู่เกวียนลำหน้าง่วงนอนมากก็เลยเผลอหลับไป โคได้พาเกวียนวกออกนอกเส้นทางตลอดคืน พอรู้สึกตัวอีกทีก็เกือบจะสว่างจึงรีบเร่งให้โคหันหน้ากลับไปให้ถูกทิศทาง เดินทางมาเรื่อย ๆ เหล่าบริวารทั้งหลายต่างพากันบ่นว่า เดินทางมาตั้งนานยังไม่ถึงสักที และดูเหมือนว่าทุกคนพากันถอดใจและเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าไปตาม ๆ กันแถมน้ำที่เตรียมมาก็หมดแล้วด้วย

หัวหน้าพ่อค้าเกวียน (พระโพธิสัตว์) คิดว่า “ถ้าขืนปล่อยให้เป็นเช่นนั้นต่อไป อาจทำให้พวกเขาท้อแท้หมดกำลังใจ ถ้าอย่างนั้นเราควรต้องรีบไปเสาะแสวงหาน้ำให้เจอ (ระหว่างทางหลังจากคืนที่ออกนอกเส้นทาง ก็หาน้ำอยู่ตลอดเพราะรู้ว่าสถานการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นเมื่อดูจากปริมาณอาหาร น้ำที่เตรียมมา) ถ้าเราทิ้งความเพียรคราวนี้ ต่อไปก็จะตายกันหมดทั้งคนทั้งโค” จึงได้เที่ยวออกเดินวกเวียนไปเรื่อย ๆ จึงได้สังเกตพบกอหญ้าใหญ่กอหนึ่ง (ในทะเลทรายหาได้ยากมาก) จึงคิดว่า ที่ไหนมีหญ้าที่นั่นต้องมีน้ำ ด้วยเหตุนี้ใต้กอหญ้านี้ คงจักมีน้ำอยู่ข้างล่างเป็นแน่ จึงบอกให้บริวารขุดลงไปใต้พื้นทราย แต่เมื่อขุดลึกลงไปประมาณ ๖๐ ศอกก็พบแผ่นหินอยู่ข้างล่าง คนทั้งหลายทั้งเสียกำลังใจและก็หมดหวัง

หัวหน้าพ่อค้าเห็นดังนั้น จึงพูดปลุกให้กำลังใจด้วยสุภาษิตว่า “ความเพียรอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ถ้าเราไม่มีความเพียรแล้วเราจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร” หลังจากนั้นจึงลงไปหมอบเอียงหูฟังที่แผ่นหิน ก็ได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ข้างล่าง จึงบอกคนใช้คนหนึ่งซึ่งแข็งแรงกว่าคนอื่นว่า “ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าท้อใจเลย จงเอาแท่งเหล็กกระทุ้งแผ่นหินนี้ให้แตก พวกเราก็จักได้กินน้ำ” คนใช้ก็กระทำตาม ได้พยายามกระทุ้งแผ่นหินหลายครั้ง จนแผ่นหินแตก น้ำก็พลุ่งขึ้นมา บริวารทั้งหลายต่างพากันดีใจเป็นที่สุด พ่อค้าจึงให้บริวารขุดเป็นบ่อกว้างเพื่อดื่มได้สะดวก อาบได้สบาย

เมื่อทั้งคนและโคก็ได้กินได้อาบตามสบายแล้ว พร้อมทั้งบรรทุกไว้เดินทางต่อไป หลังจากนั้นก็พักผ่อนกัน อีกทั้งหัวหน้าพ่อค้าก็ให้ปักธงเป็นเครื่องหมายไว้ (เพื่อประโยชน์ส่วนรวมที่ใคร ๆ จะได้รู้ว่ามีบ่อน้ำตรงนี้) จากนั้นก็ออกเดินทางต่อไปจนถึงที่หมาย หัวหน้าพ่อค้าบอกกับบริวารว่า เวลาค้าขายให้ยิ้มให้ลูกค้าแล้วลูกค้าจะยิ้มให้เรา เราไม่ต้องขายเอากำไรมาก เอากำไรแต่พอควร เมื่อบริวารทำตามที่หัวหน้าพ่อค้าแนะนำ ขายของไปใช้เวลาเพียงน้อยนิดสินค้าก็หมด ทุกคนพากันดีใจที่ประสบความสำเร็จในการขายอย่างยอดเยี่ยม หัวหน้าพ่อค้าจึงพูดกับบริวารว่า “เราขอบใจพวกท่านมากที่ร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรค ทุกคนพร้อมที่จะเหน็ดเหนื่อยไปด้วยกัน จนขายของได้หมดทุกเล่มเกวียน ตรงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้” หลังจากนั้นก็เดินทางกลับโดยปลอดภัย มาชาติสุดท้ายคนใช้นั้นได้มาเกิดเป็นพระภิกษุองค์หนึ่งที่ตอนแรกเกิดความท้อใจ ภายหลังได้เร่งความเพียรจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ส่วนหัวหน้าพ่อค้าได้มาเกิดเป็นพระพุทธจ้า จบเรื่องนี้ในวัณณุปถชาดก เอกนิบาต เท่านี้.

ธรรมนิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความไม่ย่อท้อเป็นเหตุให้ได้ผลดี”

“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”

“วิริเยนะทุกขะ มัจเจติ บุคคลพ้นทุกข์ได้เพราะความเพียร”

view