สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com

ธรรมะเริ่มต้น

 

เรื่องที่ ๓๗ เรื่อง ธรรมะเริ่มต้น

วัดเขาแผงม้านี้ก็สร้างมาแล้ว ๑๓ ปี (๒๕๕๒) โดยมีผู้มีจิตศรัทธาถวายที่ไว้ครั้งแรกประมาณ ๔๐ ไร่ ให้พระภิกษุสงฆ์อยู่ภาวนาสร้างวัดป่า ตอนมาอยู่ก็ไม่มีต้นไม้ซักต้นเดียวก็ต้องอาศัยการปลูกป่า พระภิกษุสงฆ์-สามเณร และญาติโยมช่วยกันปลูกต่อมาได้ขยายพื้นที่ออกไปเป็น ๑๔๐ ไร่ ก็เป็นที่สำหรับให้ญาติญาติมาทำบุญสุนทานส่วนหนึ่ง สำหรับนั่งสมาธิภาวนาอีกส่วนหนึ่ง พระภิกษุสงฆ์ก็ได้ใช้สถานที่นี้หลีกเร้นภาวนา หลบ ๆ ตามป่าตามเขา ตามกุฏิเล็ก ๆ อยู่ในป่าและก็มีญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายนี้มาบำรุงพระพุทธศาสนาจากทั้งที่ใกล้และที่ไกล พวกเราก็เป็นอีกคณะหนึ่งของผู้มีจิตศรัทธา พระพุทธเจ้าตรัสว่า ศรัทธาของผู้ใดตั้งมั่นอย่างดีไม่หวั่นไหว ศีลของผู้ใดงดงามเป็นที่สรรเสริญที่พอใจของพระอริยเจ้าทั้งหลาย ความคิดเห็นของผู้ใดตรงต่อความเป็นจริงของชีวิต บัณฑิตกล่าวเรียกเขาผู้นั้นว่าคนไม่จน ชีวิตเขาไม่เป็นหมันชีวิตที่ไม่เป็นหมันหมายความว่าชีวิตนี้สามารถสร้างคุณงามความดีต่อไปได้อีกไม่มีที่สิ้นสุด จิตของเรานี้เป็นนามธรรมเป็นแค่ความรู้สึกเท่านั้นเอง ไม่มีหนุ่ม ไม่มีแก่ เพราะฉะนั้นตัวจิตใจจริง ๆ แท้ ๆ แล้วเป็นสภาวะผู้รู้เฉย ๆ ผู้รู้ตัวนี้เราจะอบรมอะไรให้มันไป ?

ผู้รู้ตัวนี้เราจะอบรมทานบารมีมันก็ได้ทานบารมีไปเกิดชาติหน้าฉันใดขึ้นชื่อว่าความขัดข้องในปัจจัย ๔ ก็ไม่มี เมื่อเรามีเจตนาอย่างนี้ ตั้งใจทำทานอย่างนี้ รักษาศีล ๕ ประการให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ พยายามทำจิตใจของเราให้สงบอยู่ในปัจจุบันให้มาก ๆ พินิจพิจารณาความเป็นจริงของชีวิตว่าชีวิตของเรานี้ มีความแตกสลายไปในที่สุด เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชีวิตของเรานี้มีความสงบ มีความสุข เพราะว่าเราเข้าใจความเป็นจริงว่า เราสมัครตายตั้งแต่ที่เราเกิดมาดูโลกใบนี้แล้ว คนที่เกิดมาไม่ตายไม่มีเลยแต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าไม่ใช่ความตายแต่คือความเกิดต่างหากที่เป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะอาตมาปรารภไปแล้วว่าจิตนี้ไม่มีตายมีแต่เกิด การเกิดทุกคราวเป็นทุกข์ร่ำไปถ้าบุคคลนั้นไม่มีสติปัญญาทางธรรมที่จะรักษาจิตใจนี้ไว้เกิดทุกภพทุกชาติก็หาความสุขไม่ได้ ถึงแม้ชีวิตที่ผ่านมาความสุขมันก็เป็นเพียงชั่วคราว ความทุกข์มันก็ชั่วคราวมันเลยสุข ๆ ทุกข์ ๆ ขึ้นสวรรค์บ้าง ตกนรกบ้างไปวัน ๆ หนึ่งแต่จิตใจที่สงบปราศจากความโลภ ความโกรธ ความหลง มีความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริงของชีวิต

เพราะชีวิตนี้เป็นของไม่แน่นอนความตายเป็นของแน่นอน เราจะต้องตายเป็นแน่ ที่สุดของชีวิตก็คือความตายอันนี้ก็เป็นความจริงหรือเป็นสัจธรรมที่พวกเราทุกคนต้องเจอทั้งนั้น เราก็ต้องพยายามต่อสู้กับความจริงอันนี้ โดยยอมรับไม่ฝืนความเป็นจริงของชีวิต เราก็ยิ่งสงบเมื่อเราละโลกนี้ไปแล้วเราก็ไปสู่สุคติโลกสวรรค์ที่ภูมิภพที่ดีกว่านี้ เราเกิดชาติหน้าฉันใดบริวารก็ตาม ครอบครัวก็ตามเราก็สุข เพราะเราทำเหตุทำปัจจัยที่สมบูรณ์ไว้เราก็จะได้รับเหตุอันนั้น บุคคลใดทำกรรมอะไรไว้ ดีก็ตาม ชั่วก็ตามจะเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้น ๆ แน่นอน พระพุทธเจ้าทรงยืนยันมา ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้วและสิ่งนี้ก็ยังเป็นความจริงอยู่ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตไม่มีที่สิ้นสุด เพราะฉะนั้นให้เราเชื่อมั่นในความสามารถของเราเองว่าเราสามารถสร้างความดีได้ ทำจิตใจให้สงบได้ ชนะจิตใจของตัวเองได้อย่างที่เราอดทนกัน ไม่พูดคำว่า ลืมกับ แต่ ศีลก็เริ่มเกิดขึ้นแล้ว เราฝึกหัดปฏิบัติต่อไปเราก็เริ่มมีความตั้งใจที่จะไม่พูดคำเพ้อเจ้อ คำหยาบ คำส่อเสียด คำโกหก ๑ ชั่วโมง ทำไปเรื่อย ๆ ทีละเล็กทีละน้อย ต่อไปเราก็จะระลึกคำว่า พุทโธ ซัก ๒๐ นาที ทำไปเรื่อย ๆ นี้แหละล้วนแล้วแต่เป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญาที่เราทำนี้เป็นเบื้องต้นเท่านั้น ต่อไปเมื่อเราทำสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเราก็จะไปถึงจุดมุ่งหมายได้ ขอให้พวกเรามีความสุขความเจริญ อายุมั่นขวัญยืน ขึ้นชื่อว่าความขัดข้องก็อย่าได้มีแก่เราตลอดกาลนานเทอญ.

--------------------------

view